
Quantum Entanglement กับศาสตร์แซกีเต่ามังกร
ศาสตร์โบราณอย่าง แซกีเต่ามังกร ถูกใช้มานานนับพันปีในวัฒนธรรมจีน เพื่อปรับเปลี่ยนกระแสดวงชะตา โดยการฝังสิ่งแทนตัวของคนเป็น ณ จุดพลังธรรมชาติที่มีพลังดินสูง เช่น จุดมังกรพญา เต่าหนุน หรือธาตุสมดุลตามหลักฮวงจุ้ย แต่ในยุคที่โลกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและวิทยาศาสตร์ การเชื่อมโยงศาสตร์พลังงานกับฟิสิกส์ควอนตัมอย่าง Quantum Entanglement จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและชวนให้ค้นหา
บทความนี้จะอธิบายว่าหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ดูไกลตัว กลับสามารถอธิบายเบื้องหลังของแซกีเต่ามังกรได้อย่างน่าทึ่งเพียงใด
Quantum Entanglement คืออะไร?
Quantum Entanglement หรือ “ควอนตัมพันเกี่ยว” คือปรากฏการณ์ที่อนุภาคสองตัวสามารถมีสถานะเชื่อมโยงกันได้ ไม่ว่าจะแยกจากกันไกลแค่ไหน การเปลี่ยนแปลงของอนุภาคหนึ่งจะส่งผลต่ออีกตัวทันที ราวกับมีการสื่อสารที่เร็วกว่าความเร็วแสง
นักฟิสิกส์ชื่อดังอย่าง Albert Einstein เคยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Spooky action at a distance” เพราะมันขัดกับความเข้าใจของโลกคลาสสิกโดยสิ้นเชิง
แล้วเกี่ยวอะไรกับแซกีเต่ามังกร?
แนวคิดของแซกีเต่ามังกรก็คือการนำ “พลังตัวตน” หรือ “พลังเงา” ของมนุษย์ ไปฝังไว้ในจุดพลังธรรมชาติ เพื่อให้จุดนั้นกลายเป็นศูนย์กลางพลังงานที่ส่งผลกลับมายังเจ้าของตัวตนในชีวิตจริง
หากมองในเชิง Quantum Entanglement
สิ่งแทนตัวที่ฝังไว้ (รูปถ่าย เสื้อผ้า ผม หรือของใช้) ก็คืออนุภาคที่มีความเกี่ยวพันทางพลังงานกับเจ้าของ เมื่อวางไว้ในชัยภูมิพลังสูง กระแสพลังที่จุดนั้นจะส่งผลกลับมายังเจ้าของโดยตรงแบบ “ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานที่เดียวกัน”
การฝังแซกี = การตั้งจุด “เชื่อมคลื่นพลังงาน”
แซกีเต่ามังกรไม่ได้ทำงานผ่านสิ่งที่มองเห็น แต่ทำงานผ่านโครงข่ายพลังงานของธรรมชาติ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลื่นควอนตัมที่อธิบายผ่านฟิสิกส์ใหม่ๆ การฝังสิ่งแทนตัวในชัยภูมิที่มีคลื่นแม่เหล็กดี จะสร้างจุดร่วมของพลังงาน ซึ่งสามารถดึงพลังเข้ามาสู่เจ้าชะตาได้อย่างต่อเนื่อง
แซกีเต่ามังกรจึงไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์
หลายคนที่ไม่เข้าใจมักมองว่าแซกีเต่ามังกรเป็นความเชื่อแบบลี้ลับ แต่หากมองผ่านเลนส์ของ Quantum Physics จะพบว่า แนวคิดนี้มีพื้นฐานใกล้เคียงกับทฤษฎีคลื่นความถี่ การส่งพลังงานข้ามมิติ และการเชื่อมข้อมูลแบบไม่ต้องใช้การเดินทางเชิงกายภาพ
ตัวอย่างการทำแซกีเต่ามังกรในบริบทควอนตัม
-
ฝังวัตถุแทนตัว = สร้าง Entangled Object ที่มีความถี่เดียวกับเจ้าของ
-
เลือกชัยภูมิที่มีสนามพลังสูง = ใช้สนามแม่เหล็กธรรมชาติเป็นตัวขยายผล
-
ฤกษ์เวลาที่ตรงกับดวงชะตา = จูนคลื่นระหว่างพลังฟ้า ดิน และมนุษย์ให้สอดประสาน
-
ผลที่เกิดขึ้น = พลังที่เปลี่ยนแปลงในชัยภูมิจะสะท้อนกลับมายังเจ้าชะตาโดยตรง
สรุป: Quantum Entanglement กับศาสตร์แซกีเต่ามังกร
เมื่อโลกวิทยาศาสตร์เริ่มเปิดรับแนวคิดเรื่องพลังงานที่มองไม่เห็นมากขึ้น ศาสตร์แซกีเต่ามังกรก็ไม่ใช่เพียงเรื่องของความเชื่ออีกต่อไป แต่สามารถเข้าใจได้ในระดับ “สนามพลัง” ที่มีการเชื่อมโยงข้ามระยะทางอย่างลึกซึ้ง การเชื่อมโยงนี้อาจไม่ต่างจากระบบควอนตัมที่ใช้ในเทคโนโลยีชั้นสูงในปัจจุบัน เพียงแต่ถูกอธิบายด้วยภาษาคนละยุคเท่านั้นเอง